Wednesday, April 25, 2007

A THAI FAIRY TALE: MADAME TWELVE HUSBANDS

http://xq28.net/wow/viewtopic.php?f=7&t=192
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=71.60

รู้สึกว่าช่วงนี้ทุกคนเขียนอย่างมีสาระมากๆ ดีใจมากที่ได้อ่านสิ่งที่ทุกคนเขียนค่ะ แต่ดิฉันขออนุญาตเขียนอะไรไร้สาระ บ้าๆบอๆ ตามสไตล์ดิฉันสักเล็กน้อยนะคะ


ตอบคุณคนมองหนัง



>>ดังนั้น สิ่งที่ผมอยากเสนอก็คือ จากทัศนคติทางการเมืองและการทำงาน (กำกับหนังและละคร) ของพงษ์พัฒน์ อาจแสดงให้เห็นว่า คน ๆ หนึ่ง สามารถมีความคิดที่แตกต่างกันในตัวเองได้ คือ ในบางเรื่อง เขาอาจจะมีความคิดอนุรักษ์นิยมจัด แต่ในบางเรื่อง เขากลับมีความคิดที่ก้าวหน้าไปพอสมควรอย่างไม่น่าเชื่อ (เช่นเดียวกันกับ พระเอกใน me myself ที่แม้เขาจะไม่ได้มีความเป็นชายอย่างเต็มตัว แต่เขาก็รักผู้หญิงอย่างนางเอกได้)และผมอยากเสนอต่อไปว่า ลักษณะจุดยืนทางความคิดที่ซับซ้อน/คาบเกี่ยว/ย้อนแย้งในตัวเอง ดังที่ปรากฏกับพงษ์พัฒน์ ก็อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับแทบทุกคน<<

เห็นด้วยกับประโยคข้างบนของคุณคนมองหนังอย่างมากๆค่ะ มนุษย์เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากๆ ตัวอย่างที่อาจจะนำมาเปรียบเทียบกับพงษ์พัฒน์ได้ก็รวมถึง

1.BRIGITTE BARDOT
เธอรณรงค์เพื่อสิทธิของสัตว์ แต่เธอต่อต้านชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวอาหรับอย่างรุนแรง

2.ANDREA DWORKIN (1946-2005)
http://en.wikipedia.org/wiki/Andrea_Dworkin
เธอเป็นนักเรียกร้องสิทธิสตรี แต่เธอดันไปร่วมมือกับกลุ่มเคร่งศาสนาในการต่อต้าน PORNOGRAPHY ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เธอแตกต่างจากนักเรียกร้องสิทธิสตรีอย่าง ANNIE SPRINKLE และ SUSIE BRIGHT ที่เป็นดาราหนังโป๊


พอพูดถึง ANNIE SPRINKLE แล้ว ก็เลยนึกถึงงานเขียนของเธอค่ะ อันนี้เป็นงานเขียนของเธอเกี่ยวกับ “ประโยชน์ของ SEX”

http://www.anniesprinkle.org/html/writings/101_uses.html

1. Sex as a sedative. It helps you go to sleep.
2. Sex to fight addictions. It helped me quit smoking
3. Sex as a laxative. Regular sex helps you have regular shits.
4. Sex to get to know somebody. You can tell a lot about a person by fucking them.
5. Sex as a meditation.
6. Sex to relive boredom.
7. Sex to improve concentration.
8. Sex to make money.
9. Sex to create magic. Some witches believe that the most powerful time to cast a spell is during orgasm.
10. Sex for manipulation. It can get you what you want.
11. Sex as a reward. Either to yourself or to someone else.
12. Sex for relaxation.
13. Sex for rejuvenation. It keeps you looking and feeling younger.
14. Sex to increase energy. A great pick-me-up.
15. Sex to cure an asthma attack. I saved a man's life once.
16. Sex to make you laugh. It can be hilarious.
17. Sex as a gift. A present for birthdays, anniversaries, Bar Mitzvahs...
18. Sex to get high.
19. Sex to achieve an altered state.
20. Sex to create life.
21. Sex for waking up. Helps get rid of that groggy feeling.
22. Sex to cure back pain.
23. Sex to keep warm in the winter.
24. Sex as a pain killer. It's far more potent than aspirin, and most prescription pain killers.
25. Sex as an anti-depressant. It will cheer you up.
26. Sex for stress reduction.
27. Sex as a spiritual exercise.
28. Sex for exercise. It's aerobic and burns calories.
29. Sex for thrills and adventure.
30. Sex to relive headaches. Even migraines.
31. Sex as a cure for writer's block.
32. Sex as a good deed. Give the needy an occasional mercy fuck.
33. Sex as an art form. It can be very creative and a great way to express oneself.
34. Sex to control appetite. It can be so filling.
35. Sex for cardiovascular health.
36. Sex to create intimacy.
37. Sex as an expression of love.
38. Sex for itching mosquito bites. Apply your own sperm to affected areas.
39. Sex for barter. Trade it for all kinds of things.
40. Sex to get in touch with emotions, like sadness.
41. Sex to avoid working. I can always finish this some other time.

--หลังจาก ANDREA DWORKIN ตาย SUSIE BRIGHT ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาของ ANDREA DWORKIN ได้เขียนถึงเธอด้วย อ่านงานเขียนเต็มๆของ SUSIE BRIGHT ได้ที่นี่
http://susiebright.blogs.com/susie_brights_journal_/2005/04/andrea_dworkin_.html

>>I know it’s strange that I have such a tragic affection for her, when she apparently only had loathing for my kind. I’ve had women come at me with knives who felt they had to do me in, in Dworkin’s name. Her passion and activism was classic Prime of Miss Jean Brodie. She was a dangerous lady, with no class analysis, no psychological insight-- a scary combination. Her loaded warped pistol was neatly picked up by right wing creeps who took all the femme bullets out of it and never looked back..

Every time you hear some preacher/politician talk about “violence against women” or how something is “degrading to women” tell them to send a royalty check to Andrea and ask them what they’ve done lately to empower female sexual authority. I never understood why she didn’t attack them the way she attacked feminist pornographers.<<


--ดิฉันไม่มีความรู้เรื่องละครทีวีไทย+การเมืองไทยเลยค่ะ พอได้อ่านที่คุณคนมองหนังกับคุณ VESPERTINE เขียนแล้วก็รู้สึกทึ่งมากๆ

--พอพูดถึงเทพนิยายหรือนิทานไทยแล้ว ดิฉันก็นึกถึงนิทานไทยที่ชอบมากๆ สองเรื่อง ซึ่งก็คือ

1.ปลาบู่ทอง

นิทานเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับแม่เลี้ยงและลูกเลี้ยง คล้ายๆ CINDERELLA และ SNOW WHITE แต่ดูเหมือนว่าเนื้อหาของเรื่องนี้จะโหดร้ายกว่าเทพนิยายของฝรั่งมากๆ และนี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งหรือเปล่าที่ทำให้เด็กๆไทยอยากโตขึ้นมาเป็น CINDERELLA + SNOW WHITE แทนที่จะอยากโตขึ้นมาเป็น “เอื้อย”

พูดถึงนิทานเรื่องนี้ทีไรก็ต้องนึกถึงละครโทรทัศน์เรื่อง “ปลาบู่ทอง” เวอร์ชันที่นำแสดงโดย “วิญญู จันทร์เจ้า”

ฉากเด็ดในนิทานเรื่อง “ปลาบู่ทอง”

http://www.broadcastthai.com/plaboo/plaboo-story.php
หลายเดือนผ่านไป ขนิษฐี และลูกสาว ทนเก็บความริษยาไว้ไม่ได้ จึงออกอุบายไปส่งข่าวบอกเอื้อยว่าพ่อเจ็บหนักให้กลับมาเยี่ยม พอทราบข่าวเอื้อยก็รีบไปทันที สามแม่ลูกวางแผนให้เอื้อยเดินข้ามสะพานไม้ที่วางหลอกไว้จนเอื้อยตกน้ำตาย แล้วให้อ้ายเข้าไปในวังแทน


2.นางสิบสอง

ฉากเด็ดในนิทานเรื่อง “นางสิบสอง”
http://www.lokwannakadi.com/neo/shlumnum.php?ID=7

เมื่อพระเจ้ารถสิทธ์เห็นนางสิบสองตาบอดเช่นนั้นแล้วจึงรับสั่งให้อำมาตย์พาไปขังไว้ในอุโมงค์แล้วให้ปิดประตูอุโมงค์เสีย นางสิบสองถูกขังอยู่ในอุโมงค์นั้นมีครรภ์ไปทุกนาง เมื่อครบกำหนดนางผู้พี่ทั้งสิบเอ็ดก็คลอดบุตรออกมาเป็นลำดับกัน แต่ด้วยความอดอยากเหลือที่จะทนทาน ทำให้เด็กที่คลอดมาตาย นางได้ฉีกศพเนื้อบุตรของตนออกแจกกันกิน เพื่อประทังความหิวไป วันละเล็กละน้อยดังนี้ตลอดมา ต่างประทังชีวิตอยู่ดัวยศพเนื้อบุตรดุจนางยักษ์มารด้วยกันทั้งนั้น ส่วนนางน้องสุดท้อง ตาบอดข้างเดียวมีความฉลาด และเมตตา ครั้นได้ส่วนแบ่งศพเนื้อบุตรของนางผู้พี่เหล่านั้นแจกให้ ก็ไม่กิน เก็บไว้ ครั้นต่อมามิช้า นางผู้พี่ขอเนื้อบุตรของนางกิน นางก็เอาเนื้อบุตรของพี่ แจกให้พี่กินวันละเล็กละน้อย และนางอุตส่าห์ ถนอมเลี้ยงบุตรของนางจนเติบใหญ่ ให้ชื่อว่า "รถเสน" หรือ "พระรถ"


--ถ้าหากดิฉันรวยล้นฟ้า สามารถสร้างละครทีวีได้ ดิฉันอาจจะสร้างละครจักรๆวงศ์ๆเรื่อง “นางสิบสองผัว” หรือ “บัญชีดำ น้องเมอร์กล้าสู้” หรือ I WILL WALK LIKE A CRAZY WHORE โดยให้เนื้อเรื่องเกิดในยุคโบราณ ในสมัยอาณาจักร “ทวารหลังสิดี” นางเอกของเรื่องชื่อเมอริลีน เธอเป็นโสเภณีที่มีสามีหนุ่มหล่อ 12 คน เธอสำเร็จวิชาจาก “คัมภีร์เบญจพิษเบญจเพศ” ซึ่งส่งผลให้เธอเชี่ยวชาญด้านยาพิษและสามารถแปลงร่างเป็นคนได้ 5 เพศ ทั้งชาย,หญิง,เกย์,เลสเบียน,ไบ โดยศัตรูคนสำคัญของเธอในเรื่องนี้คือ

1.”LADDA หน้าหมา” ซึ่งเป็นขุนนางผู้มีอำนาจคนหนึ่งในดินแดนนั้น เธอมีอีโก้จัด คิดว่าความคิดของตัวเองถูกต้อง ดังนั้นทุกคนต้องทำตามที่เธอเชื่อเท่านั้น เธอaสำเร็จวิชาจากคัมภีร์ “เบญจกัลยาณี” ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่เป็นขั้วตรงข้ามกับคัมภีร์เบญจพิษเบญจเพศ

2.เทวีอังกาบมาร ซึ่งเป็นเจ้าลัทธินรกคนหนึ่งในดินแดนนั้น เธอเคยฝึกวิชาจากคัมภีร์เบญจกัลยาณีจนส่งผลให้เธอเก็บกดทางเพศอย่างรุนแรง ธาตุไฟเข้าแทรก และกลายเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งในยุทธภพ (เอ๊ะ นี่มันละครจักรๆวงศ์ๆหรือเปล่า) เธอได้ไอเดียว่าวิธีแก้ปัญหาการข่มขืนที่ถูกต้องคือการตัดอวัยวะเพศชายทิ้งเสีย เธอกับสาวกสาวในลัทธิก็เลยพยายามไปล่าตัดอวัยวะเพศชายมาให้ได้คนละ 1000 แท่ง โดยไม่สนใจว่านั่นเป็น “วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง” หรือไม่


ส่วนดาราที่อาจมารับบทเป็นสามี 12 คนของเมอริลีนได้แก่

1.นะโม ทองกำเนิด
http://farm1.static.flickr.com/195/472456971_6aa68bc590_o.jpg

2.นภัสกร มิตรเอม

3.กฤตนัย บุญชิต
http://farm1.static.flickr.com/232/472456983_7fd582e491_o.jpg
http://farm1.static.flickr.com/217/472456979_2e1d46efa5_o.jpg
http://farm1.static.flickr.com/177/472456977_7b7779a0b3_o.jpg
http://farm1.static.flickr.com/220/472456973_1291523fe5_o.jpg

4.ศิววัชร์ ทรัพย์ภิญโญ
http://farm1.static.flickr.com/222/472456985_509d16c2f6_o.jpg

5.พีรวัชร์ เหราบัตย์
http://farm1.static.flickr.com/198/472453346_aee430d221_o.jpg
http://farm1.static.flickr.com/192/472453340_f9ca5fd556_o.jpg

6.หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล
http://farm1.static.flickr.com/221/472453352_affc192539_o.jpg
http://farm1.static.flickr.com/205/472453350_32898c36f6_o.jpg

7.เมธา ชูลาภ
http://farm1.static.flickr.com/226/472453358_41b792e19a_o.jpg


8.อัครา อมาตยกุล
http://www.virginradiothailand.com/about/press/pix/70.jpg

9.ตรีพล พรมสุวรรณ
http://farm1.static.flickr.com/226/472453360_148830685f_o.jpg

10.จุ๊น กิตติคุณ สัมฤทธิ์พันธ์สุข
http://www.mthai.com/xxx/thegig01/g07.jpg
http://www.thaitv3.com/power3club/gallery/power3small/joon.jpg

11.ปูไข่ พงษ์สิรี บรรลือวงศ์
http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/2006/02/O4095341/O4095341-17.jpg

12.หยวน นิธิชัย ยศอมรสุนทร
http://farm1.static.flickr.com/175/472478093_b248286785_o.jpg
http://farm1.static.flickr.com/222/472478097_a70146ea6d_o.jpg

แน่นอนว่า “เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์” ต้องได้เป็น “ดารารับเชิญเกียรติยศ” คนหนึ่งในละครทีวีเรื่องนี้

ส่วนรายละเอียดของละครทีวีเรื่องนี้เชิญทุกคนจินตนาการกันได้ตามใจชอบ

No comments: